Ricardo Kaka'
"เทพบุตรแห่งเมืองแซมบร้า" |
กว่าจะมาเป็น กาก้า
ริคาร์โด้ อิเซคสัน ดอส ซานโตส ไลเต้ หรือที่รู้จักกันในนาม กาก้า
เกิด มื่อวันที่ 22เมษายน
ปี 1982ในกรุง
บราซิเลีย ประเทศ บราซิล ปัจจุบันลงเล่นให้กับทีมชาติบราซิลและสโมสร เอซี มิลาน
ในอิตาลี
กาก้า มีน้องชายอยู่ 1คนชื่อว่า โรดริโก้ อิฟราโน่ ดอส ซานโตส ไลเต้
หรือ ดีกาโอ และ น้องชายของเขาก็หวังว่าจะได้เดินตามรอยเท้าของพี่เพื่อไปเล่นยัง
เซเรีย อา
ชื่อ กาก้า นั้นเป็นสำเนียงแบบ โปรตุเกส ที่จะออกสำเนียงเน้นคำหลัง
ตอนที่อยู่ในบราซิลนั้นจะมีคนเรียกเขาว่า ริคาร์โด้ มากกว่า อย่างไรก็ก็ตามชื่อ
กาก้า นั้นได้มาจากน้องชายของเขาที่ไม่สามารถเรียกพี่ชายของเขาว่า ริคาร์โด้
ได้ในตอนเด็กๆ ทำให้ โรดริโก้ หันมาเรียก คาค่า (Caca) แทน
และมาตอนหลังจึงเปลี่ยนมาเป็น กาก้า (Kaka)อย่างในปัจจุบัน
ในเดือนกันยายน ปี 2000เมื่อ กาก้าอายุได้ 18ปีเขาก็ต้องเกือบที่จะต้องหยุดอนาคตการค้าแข้งลง
หลังจากที่ประสบอุบัติเหตุ และมีอาการกระดูกสันหลังร้าว จนทำให้เกือบเป็นอัมพาต
แต่หลังจากนั้น1ปี กาก้า
ก็ฟิตเต็มที่และกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง ในเกมสำรองของทีม
โดยโค้ชส่งเขาลงเล่นเป็นตัวสำรองในช่วง 14นาทีสุดท้าย ในเกม ทอร์เนโร่ ริโอ นัดชิงชนะเลิศ
ที่ทีมต้นสังกัด เซาเปาโล ตามหลังคู่แข่งอยู่ 1ประตู และจากการตัดสินใจของโค้ช เซาเปาโล ที่ส่ง
กาก้า ลงสนามนั้น คอมเมนเตเตอร์ที่บรรยายเกมอยู่ถึงกับพูดออกมาว่า โค้ช เซาเปาโล
นั้นต้องบ้าแน่ๆ แต่หลังจากนั้น 2นาที กาก้า ก็จัดการปิดปากผู้บรรยายรายนี้ด้วยการยิง 2ประตูช่วยให้ทีมพลิกมาคว้าชัยได้อย่างเหลือเชื่อ
. กาก้า ให้เหตุผลการกลับมาในครั้งนี้ว่า เป็นผลมาจากการที่เขาเข้าโบถส์บ่อย
จนได้รับของขวัญจากพระเจ้า
ประวัติส่วนตัว
กาก้า แต่งงานกับ คาโรลีน เซลิโก้ ณ โบถศ์คริสต์แห่งหนึ่ง
เมื่อวันที่ 23ธันวาคมปี
2005,2ปีหลังจากที่
กาก้า ย้ายจาก เซาเปาโล มาเล่นให้กับ เอซี มิลาน . คาโรลีน นั้นเกิดเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 1987ที่โรซานเกล่า ลีร่า
เธอทำงานอยู่กับสินค้า แบรนด์ดังอย่าง คริสเตียน ดิออร์ ในบราซิล
ซึ่งเธอเป็นหนึ่งในผู้บริหารกิจการด้วย โดยหล่อนนั้นตั้งเป้าไว้ว่าจะเรียนให้จบปริญญาด้านบริหารธุรกิจ
ที่มหาวิทยาลัยในเมือง มิลานด้วย
ทั้งคู่พบกันเมื่อปี 2001ซึ่งขณะนั้น คาโรลีน เป็นนักศึกษาอยู่และ กาก้า
นั้นยังเล่นฟุตบอลให้กับ เซา เปาโล อยู่ ในงานแต่งงานของทั้งคู่มีแขกผู้มีเกียรติ
มาร่วมงานกว่า 600คนและบรรดาแขกนั้นมีนักเตะเพื่อนร่วมทีมชาติอย่าง
คาฟู ,โรนัลโด้
,อาเดรียโน่
,ดิด้า ,ชูลิโอ บาปติสต้า และยังมี
อดีตโค้ชทีมชาติอย่าง คาร์ลอส อัลเบอร์โต้ ปาร์ไรร่า มาร่วมงานด้วย
กาก้า นั้นถือว่าเป็นคริสเตียนที่เคร่ง ศาสนามากคนหนึ่งเลยทีเดียว
ในเวลาที่เล่นกีฬาเขามักจะสวมเสื้อที่มีสกรีนคำว่า I Belong to Jesus (สาวกของพระเจ้า)อยู่เป็นประจำ
ไม่ว่าจะเป็นครั้งเมื่อพาบราซิลคว้าแชมป์โลกปี 2002หรือตอนที่ได้แชมป์ลีก กับ
มิลานเมื่อปี2004 และเช่นเดียวกันที่สตั๊ดของเขาก็จะมีคำนี้เขียนอยู่ตรงลิ้นรองเท้าด้วย
.และทุกครั้งที่เขาทำประตูได้ก็จะชี้นิ้งขั้นไปบนฟ้าเป็นสัญลักษณ์ว่า"ขอบคุณพระเจ้า"เสมอ
ประวัติการค้าแข้ง ระดับสโมสร
กาก้า ลงเล่นเปิดตัวกับ เซา เปาโล ครั้งแรกเมื่อปี 2001เมื่ออายุได้ 18ปีและในฤดูกาลแรกเขาก็ยังไป
12ลูกจาก 27เกมที่ลงเล่น และ 10ประตู จาก22เกมในซีซั่นถัดมา
ซึ่งในขณะที่เขาอายุ 17นั้นทางต้นสังกัด
เซา เปาโล เกือบที่จะขาย กาก้า ไปให้กับ กาซิอันเทปสปอร์ ทีมในดิวิชั่น 1ตุรกี
แต่ก็ไม่สามารถตกลงกันได้ เพราะ นูรัลลาห์ ซาแกลม กุนซือทีม กาซิอันเทปสปอร์
ขณะนั้น และทางบอร์ดบริหารของทีมนั้นปฏิเสธที่จะจ่ายเงินจำนวน 1.5ล้านเหรียญ ยูเอส (ประมาณ 60ล้านบาท)ให้กับ เซา เปาโล
ซึ่งหลังจากที่ได้เล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ เซา เปาโล
ฟอร์มของเขาก็เริ่มไปเตะตาบรรดาทีมใหญ่ในยุโรป
กาก้า ย้ายสู่ เอซี มิลานเมื่อปี 2003ด้วยค่าตัว 8.5ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 340ล้านบาท) ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี่
ประธานสโมสรมิลานบรรยายถึงนักเตะรายนี้ว่า
"เขาเล่นฟุตบอลเหมือนมีตาหลัง" และเพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้น กาก้า
ก็มาอยู่ในทีมชุดใหญ่ได้เลย และหลังจากนั้นเขากได้ลงลเนเกม เซเรีย อา
นัดแรกซึ่งเป็นที่ทีมออกไปเยือน อันคอน่า และ มิลาน ก็คว้าชัยไปได้ 2-0.และเขายิงไป 10ประตูจาก 30เกมที่ลงเล่นในซีซั่นนั้น
ซึ่งต้นสังกัดก็คว้าสคูเด็ดโต้ และ ถ้วย ยูโรเปี้ยน ซุปเปอร์ คัพได้ด้วย
กาก้า เป็นหนึ่งใน 5แผงมิดฟิลด์ของมิลาน ในฤดูกาล 2004-2005 และบ่อยครั้งที่ต้องขึ้นไปเล่นเป็นหน้าต่ำเพื่อสนับสนุน
อังเดร เชฟเชนโก้ หัวหอกของทีมในเวลานั้น
.และฤดูกาลที่สองของเขานั้นก็จบลงที่การยิงไป 7ลูกจาก 36เกมที่ลงเล่นและมีถ้วย อิตาเลียน ซุปเปอร์ คัพ
ติดมือมาด้วย .โดยในลีก มิลาน จบอันดับที่ 2ตามหลัง ยูเวนตุส ทีมแชมป์และต้องพลาดการคว้าแชมป์
ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก ไปอย่างน่าเสียดายเมื่อแพ้จุดโทษต่อ
ลิเวอร์พูลไปในรอบชิงชนะเลิศ .แต่ กาก้า
ก็ได้รับเลือกให้เป็นกองกลางยอดเยี่ยมประจำทัวนาเมนต์ปีนั้น
และในการประกาศผู้ได้รับรางวัล ลูกบอลของคำ ปีเดียวกัน กาก้านั้นได้รับการโหวต
ทั้งหมด 19คะแนนและรั้งอยู่ในอันดับที่
9
หนึ่งในประตูที่ กาก้า
ทำได้ในชุดมิลานนั้นมีอยูประตูหนึ่งในนัดที่พบกับ เฟเนบาร์เช่ ในฟุตบอลยูฟ่า
แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2005/06 ที่ทีมรอสโซเนโร่
พิชิตทีมแดนไก่งวงไปได้ 3-1.ประตูที่เกิดขึ้นนี้มีผู้เชี่ยวชาญหลายคนนำไปเปรียบเทียบกับ
ดีเอโก้ มาราโดน่า โดย กาก้า ลากบอลจากแดนกลางผ่านผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามถึง 3รายก่อนที่จะหลุดเข้าเขตโทษไปยิงผ่านผู้รักษาประตู
โวลคาน เดมิเรล เข้าไป .และใน วันที่ 9เมษายน 2006 กาก้า ก็ซัดแฮตทริกแรกในการเล่นให้ มิลาน
ได้สำเร็จในการพบกับ เวโรน่า โดยทั้ง 3ลูกมาจากการยิงในครึ่งหลังทั้งหมด
ในปี 2006นี้ รีล
มาดริด ยักษ์ใหญ่จากสเปนแสดงความสนใจที่จะคว้าตัว กาก้า ไปร่วมทัพ แต่ทาง มิลาน
ก็ปฏิเสธกลับไป โดยการจับดาวเตะวัย 24ปีรายนี้เซ็นสัญญาใหม่ที่จะทำให้เจ้าตัวอยู่กับทีมไปจนกระทั้งปี
2011 ต่อมา
ในวันที่ 1พฤศจิกายน
ปีเดียวกัน กาก้า ก็จัดการทำแฮตทริกที่สองให้กับตัวเองในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ที่พบกับ อันเดอร์เลช ที่ทีมจาก อิตาลี เอาชนะไปได้ 4-1 และเป็นแฮตทริกแรกในบอลยุโรปของ
ดาวเตะรูปหล่อรายนี้ด้วย
กาก้า ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี 2006จากบรรดาสื่อมวลชน
โดยมีการทำโพลของ"โอ โกลโบ"นิตยสารในบราซิล
ในหัวข้อที่ว่า"ใครคือผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก"ซึ่งจากผลสำรวจปรากฏว่า
กาก้า ได้รับการโหวตถึง 81.5เปอร์เซ็นต์
ส่วนที่2นั้นเป็น
โรนัลดินโญ่ ทีได้ 11เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ยังมี กัซเซ็ตต้า เดลโล่ สปอร์ต สื่อกีฬายักษ์ใหญ่ของอิตาลี ที่ตั้งหัวข้อสำรวจเดียวกัน
และ กาก้า ก็ติดอยู่ในกลุ่มผู้เล่นยอดเยี่ยมที่ได้รับการโหวตเหมือนเดิม
และหลังจากนั้น คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือของ
มิลาน ก็ออกมายกย่องลูกทีมของตนเองว่า
กาก้านั้นเป็นผู้เล่นที่สมควรจะได้รางวัลฟุตบอลทองคำในปี 2006มากที่สุด แต่ก็ไม่เป็นไปมคาดเมื่อ
ซีเนดีน ซีดาน เป็นผู้คว้ารางวัลนี้ไปครอง
ข่าวคราวของกาก้าค่อนข้างที่จะเงียบหายไปในช่วงปี
2008-2009 มิลานไม่ได้แชมป์อะไรเท่าไหร่
แต่ช่วงกลางปี ก็ตกเป็นข่าวดังอีกครั้งหนึ่ง เมื่อฟลอเรนติโน่ เปเรซ
ซึ่งกลับมาดำรงตำแหน่งประธานสโมสรอีกครั้ง ซื้อตัวกาก้า เพื่อเข้ามาตามการทำทีมแบบ
"กาลาคติกอส" หรือทีมรวมซูเปอร์สตาร์ ในค่าตัวสูงถึง 56 ล้านปอนด์ หรือ 67.2
ล้านยูโร
เข้ามาร่วมทีมเป็นรายแรก เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ก่อนที่จะซื้อตัวโรนัลโด้
จากทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นรายต่อมา ซึ่งกับทีมราชันนั้น กาก้า
ได้สวมเสื้อเบอร์ 8 และเป็นกำลังหลัก
ให้กับทีมดังแดนสเปน อยู่ในขณะนี้
ระดับชาติ
กาก้าลงลเนเกมแรกให้ทีมชาติในเกมที่พบกับ โบลิเวีย ในเดือนมกราคมปี 2002และเขาก็ยังมีชื่อติดอยู่ในทีมชุดฟุตบอลโลกปี
2002ด้วย
แต่กาก้าได้ลงเล่นเพียงแค่ 19นาทีเท่านั้นในเกมรอบแรกที่พบกับ คอสตาริก้า .ในปี 2003กาก้า
เป็นกัปตันให้ทีมชาติลงทำศึก โกลคัพ ที่ สหรัฐ และ เม็กซิโก ร่วมกันจัดขึ้น
โดยทัวนาเมนต์นั้นบราซิลได้อันดับที่ 2และ กาก้าก็ยิงประตูสำคัญให้ทีมในนัดที่พบกับ
โคลัมเบีย ด้วย
หลังจากนั้นในปี 2005 ศึกคอนเฟเดอเรชั่นส์ คัพ กาก้า
ก็เป็นคนยิงปรตูในรอบชิงชนะเลิศให้ทีมคว้าชัยเหนือ อาร์เจนติน่า ไปได้
(ในระหว่างการฉลองแชมป์อยู่ กาก้า และ เพื่อนร่วมทีมหลายคน
ได้ชูเสื้อทีเชิ้ตที่มีข้อความเขียนว่า "Jesus Loves You"หรือ
"พระเจ้ารักคุณ"ในภาษาที่ต่างกันไปด้วย)
กาก้า ได้รับอันดับที่ 10จากการโหวตผู้เล่นยอดเยี่ยมของฟีฟ่าประจำปี 2004(FIFA
World Player of the Year award 2004 หรือ ฟีฟ่า เวิล์ด เพลเยอร์ ออฟ เดอะ เยียร์ อวอร์ด 2004)
และในปี 2005กาก้า
ได้รับการโหวตให้เป็นที่ 2หลังจากที่พาบราซิลผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก
2006ได้สำเร็จ
.กาก้า
กลายเป็นผู้เล่นที่สมบูรณ์ขึ้นและได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดของบราซิลเลยทีเดียว.
กาก้า ยิงประตูแรกให้บราซิลในฟุตบอลโลกปี2006
ในเกมที่พบกับ โครเอเชีย
ในรอบแรกเมื่อวันที่ 13 มิถนายน 2006
.และในวันที่ 3 กันยายน 2006
กาก้า
ยิงประตูสำคัญให้ทีมในนัดที่พบกับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง อาร์เจนติน่า
หลังจากที่จ่ายให้ เอลาโน่ เพื่อนร่วมทีมชาติคนใหม่ยิงไปก่อนหน้านั้น1ลูก .และเมื่อกลางเดือน
พฤศจิกายน 2006 กาก้าได้รับเลือกให้เป็นกัปตันทีมชาติอีกครั้ง
ในนัดกระชับมิตรที่บราซิลพบกับ สวิสเซอร์แลนด์
ซึ่งนัดนั้นบราซิลไม่มีกัปตันทีมตัวจริงอย่าง ลูซิโอ
ลงสนามเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ
ฟุตบอลโลก 2006
เกมแรกของบราซิลในกลุ่ม เอฟ ,กาก้า
ก็สามารถเบิดสกอร์แรกให้ทีมได้ทันทีในนาทีที่ 44จากเกมที่พบกับ โครเอเชีย ซึ่ง กองกลางรายนี้
ยิงจากนอกกรอบประมาณ 25เมตร
และลูกนี้ก็เป็นประตูชัยให้ทีมด้วย .บรรดาสื่อต่างๆพากันยกย่อง กาก้า ว่าเป็น 1ใน5สิ่งมหัศจรรย์ของเกมลูกหนังร่วมกับ
อาเดรียโน่ ,โรนัลโด้
,โรนัลดิลโญ่
และ โรบินโญ่ และ ในเกมรอบต่อมากับ กาน่า เจ้าตัวเป็นคนจ่ายให้ โรนัลโด้หลุดเข้าไปทำประตูให้ทีม
และถือเป็นการยิงทำลายสถิติสูงสุดของตลอดกาล แกร็ด มุลเลอร์ ลงด้วย
.แต่มาในนัดที่พบกับ ฝรั่งเศส ในรอบก่อนรองชนะเลิศ
เจ้าตัวและเพื่อนร่วมทีมต่างไม่สามารถรักษาฟอร์มเอาไว้ได้ทำให้ต้องจบปี 2006ด้วยมือเปล่า
คอนเฟดเดเรชั่น 2009
ฟอร์มของกาก้ายังคงอยู่ในระดับท๊อป
สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้หับแฟนๆทีมชุดขาว โดยประเดิมแมทช์แรก ชนะอียิปต์ไปถึง 4-3 ซึ่งกาก้าทำได้ 2 ลูก ทีเด็กอยู่ที่ตรงลูกแรก
ที่กาก้ารับบอลจากอัลเวสที่โยนมาให้ เคาะบอลล็อคผ่านผู้เล่นอียิปต์ไปได้ 3 คน ก่อนจะซัดโล่งๆ ผ่านมือ เอล
ฮาดารี เข้าไป อย่างสวยงาม
ได้รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมหลังพาบราซิลดคว้าแชมป์สมัยที่ 3 ซึ่งเป็นชาติแรกที่ทำได้
เกร็ดที่น่าสนใจ
- กาก้า มีเชื่อสายโปรตุเกสด้วย
- กาก้า เคยเป็นสมาชิกประจำองค์การกีฬาของศาสนา คริสต์
- ในเดือน พฤศจิกายน 2004 กาก้า ได้รับเลือกให้เป็นฑูต
ในการต่อต้านความอดอยาก ของ สหประชาติ
ซึ่งเขานับเป็นฑูตที่อายุน้อยที่สุดในเวลานั้น
- กาก้า เป็นคนที่ชอบฟังบทสวดของศาสนาคริสต์มาก
- นอกจากนี้เขายังชอบศึกษาคัมภีร์ ไบเบิ้ล ด้วย
- เวลาว่างของเขามักจะเข้าโบถส์ อ่านคัมภีร์
พร้อมกับครอบครัวและน้องชายของเขา ดีเกา
- ที่ลิ้นของสตั๊ด กาก้านั้นมีปักคำว่า "I
belong to Jesus"(สาวกของพระเจ้า)
และ "God is faithful" (พระเจ้าคือความซื่อสัตย์) อยู่ด้วย
- อาเดรียโน่ เพื่อนร่วมทีมชาติของกาก้า ได้ออกมากล่าวเกี่ยวกับ กาก้า
ว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่น่าเลื่อมใสอย่างยิ่ง
- มีหลายครั้งที่ผู้คนมักเรียกเขาว่า
"นิวเปเล่"หรือ"เปเล่ขาว"
- เปเล่ เคยออกว่าบอกว่า กาก้า นั้นมีเทคนิคการเล่นแบบ บราซิล ขนานแท้
ผสมกับ ความแข็งแกร่งของร่างกายตาม สไตล์ฟุตบอลยุโรป ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ กาก้า
นั้นประสบความสำเร็จที่ อิตาลี
- วันที่ 12กุมภาพันธ์
ปี 2007กาก้า
จะได้รับสิทธิให้เป็นพลเมืองของ อิตาลี อย่างเป็นทางการ
เกียรติประวัติ ระดับสโมสร
เซาเปาโล
โคปปา เซาเปาโล เดอ จูเนียร์ : 2000
ทอร์นีโอ ริโอ : ปี 2001
ซุปเปอร์ คัมปิโอนาโต เปาลิสต้า : ปี 2002
เอซี มิลาน
ยูโรเปี้ยน ซูปเปอร์ คัพ : ปี 2003, 2007
เซเรีย อา : ปี 2004
อิตาเลียน ซูปเปอร์ คัพ : ปี 2004
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก : 2007
ชิงแชมป์ฟุตบอลสโมสรโลก : 2007
เกียรติประวัติ ระดับชาติ
ฟีฟ่า เวิล์ด คัพ : ปี 2002
คอนเฟเดอเรชั่นส์ คัพ :ปี 2005, 2009
เกียรติยศส่วนตัว
โบลา เดอ โออูโร่ โกลเด้น บอล (นักเตะยอดเยี่ยมลีกบราซิล) ปี 2002
โบลา เดอ ปราตา (นักเตะยอดเยี่ยมตามตำแหน่งกองกลาง) ปี 2002
ผู้เล่นยอดเยี่ยมคอนคาเคฟ : 2003
หน้าใหม่เซเรียอาร์ยอดเยี่ยม : 2003
ผู้เล่นต่างชาติยอดเยี่ยมของเซเรียอาร์ : 2004,
2006, 2007
นักฟุตบอลเซเรียอาร์ยอดเยี่ยมแห่งปี : 2004,
2007
ดาวซัลโวแชมป์เปี้ยนลีดอันดับสาม : 2005-06
สุดยอดมิดฟิลด์แชมเปี้ยนลีก : 2005
ติดสุดยอดทีมแห่งปีของยูฟ่า : 2006, 2007
ติดสุดยอดทีมของฟีฟ่า : 2006,2007, 2008
เปาโลเน่ ดีอาเจนโต(บอลเงิน) : 2006-07
ดาวซัลโวแชมเปี้ยนลีก : 2006-07
ผู้เล่นตัวรุกยอดเยี่ยมของแชมเปี้ยนลีก : 2006-07
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของยูฟ่า : 2007
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่า : 2007
รางวัลบัลลงดอร์ : 2007
บอลทองคำ ฟุตบอลโลก : 2007
โตโยต้า อวอร์ด : 2007
เพลย์เมคเกอร์ยอดเยี่ยมประจำปี : 2007
นักกีฬาลาตินยอดเยี่ยม : 2007
ติด 1 ใน 100 บุคคลทรงอิทธิพล นิตยสาร
ไทม์ : 2008, 2009
ติดทีมยอดเยี่ยมของฟีฟ่า : 2008
บอลทองคำ คอนเฟดเดเรชั่น : 2009
"จอมปั่นเกมส์ "
ที่มา:http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=27pPBjWNRc0
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น