Gianluigi Buffon
"จันลุยจี บุฟฟอน บินได้" |
จันลุยจี บุฟฟอน (อิตาลี: Gianluigi Buffon) เกิดเมื่อวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 1978 เป็นผู้รักษาประตูตัวเลือกแรกในทีมชาติอิตาลีและสโมสรฟุตบอลยูเวนตุส ในอตีดเคยเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลปาร์มา ก่อนที่จะย้ายมาร่วมทีมยูเวนตุสในปี ค.ศ. 2001 ด้วยค่าตัว 32 ล้านปอนด์
[แก้]ประวัติ
จันลุยจี บุฟฟอน หรือ "จีจี้" ที่คุ้นเคยกันดีในแดนมะกะโรนี คือกุญแจสำคัญที่ทำให้อิตาลีผงาดคว้าแชมป์โลก 2006 มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ และนั่นก็ทำให้เขาก็ได้รับการยกย่องให้เป็นนายทวารหมายเลข 1 ของโลกในเวลานี้อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง
หลายคนอาจจะยังไม่รู้มาก่อนว่า บุฟฟอนเคยเล่นในตำแหน่งกองกลาง จนกระทั่งมีจุดเปลี่ยนตอนอายุ 14 ปี หลังจากที่ต้องสวมบทนายทวารจำเป็นเมื่อเจ้าของตำแหน่งทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บ และในอีก 2 สัปดาห์ถัดมา จีจี้ก็กลายเป็นผู้รักษาประตูตัวหลักของทีมไปโดยปริยาย
ในปี ค.ศ. 1995 บุฟฟอนในวัย 17 ปี ได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพกับปาร์มา และแมตช์แรกในเซเรียอาของเขาก็คือการเผชิญหน้ากับทีมยักษ์ใหญ่อย่างเอซีมิลาน ในปีถัดมาเขาก็ได้ลงเล่นให้ทีมชาติในศึกโอลิมปิก 1996 ที่นครแอตแลนตา สหรัฐอเมริกาด้วย
หลังจากที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมให้กับต้นสังกัด บุฟฟอนก็ได้ลงเล่นทีมชาติอิตาลีชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในวัย 19 ปี แทนที่จันลูกา ปายูกา ที่ได้รับบาดเจ็บในเกมเพลย์ออฟเพื่อชิงตั๋วฟุตบอลโลก 1998 กับรัสเซียที่กรุงมอสโก
จีจี้ได้รับการตอบแทนด้วยการมีชื่อในทีมอัซซูรีชุดลุยศึกเวิลด์คัพ 1998 ทว่า ก็ทำได้แค่นั่งดูอยู่บนม้านั่งสำรองเท่านั้น เนื่องจากปายูกา ยึดตัวจริงเอาไว้ได้หลังจากที่หายจากอาการบาดเจ็บ จากนั้นเขาก็ได้ช่วยให้อิตาลีผ่านรอบคัดเลือกฟุตบอลยูโร 2000 ได้แบบไม่มีพลิกโผ
ในปี ค.ศ. 2001 บุฟฟอนได้ย้ายจากปาร์มาไปร่วมทีมระดับบิ๊กอย่างยูเวนตุสด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติโลกสำหรับผู้รักษาประตู 52.29 ล้านยูโร (ประมาณ 2,614 ล้านบาท) แม้เจ้าตัวจะเคยเอ่ยปากยอมรับว่ามันเป็นค่าตัวที่ออกจะมากเกินไปสำหรับนักเตะคนหนึ่ง ทว่ามันก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกกดดันกับความคาดหวังแต่อย่างใด
นายทวารจอมหนึบช่วยให้อิตาลีได้ผ่านเข้าถึงฟุตบอลโลก 2002 รอบสุดท้ายได้สำเร็จ และในปีถัดมา เขาก็คว้ารางวัล "นักเตะทรงคุณค่า" และ "ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม" ของยูฟ่า นอกจากนั้นยังได้รับยกย่องจากเปเล่ ตำนานนักเตะทีมชาติบราซิล ว่าเป็น 1 ใน 125 นักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่ เมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 2004
ฤดูกาล 2004-2005 บุฟฟอนก็ช่วยให้ยูเวนตุสคว้าสกูเดตโตไปครองเป็นสมัยที่ 3 ในรอบ 4 ฤดูกาลได้สำเร็จ แม้ว่าจะโชคร้ายได้รับบาดเจ็บระหว่างชนกับกาก้า เพลย์เมกเกอร์ของมิลาน จนต้องผ่าตัดหัวไหล่ในช่วงฤดูร้อนปี ค.ศ. 2005 แต่กลับมาลงสนามได้เพียงเกมเดียวในเดือนพฤศจิกายนก็ต้องพักยาวอีกครั้ง เนื่องจากอาการบาดเจ็บกำเริบก่อนจะฟิตกลับมาเฝ้าเสาได้ในเดือนมกราคม
ไม่เพียงแต่จะต้องขึ้นเขียงด้านสภาพร่างกายเท่านั้น แต่จีจี้ยังต้องเผชิญหน้ากับข่าวร้ายครั้งใหญ่ เมื่อมีการเปิดเผยเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า ยูเวนตุสมีส่วนพัวพันในคดีจ้างวานล้มบอล และบุฟฟอนรวมถึงอันโตนีโอ กีเมนตี อดีตนายทวารทีมม้าลาย กับเพื่อนนักเตะอีกหลายคนก็พลอยติดร่างแหไปด้วยฐานแอบแทงพนันอย่างผิดกฎระหว่างที่ยังค้าแข้งกับปาร์มา
วันถัดมา เขาก็ต้องเข้าไปให้ปากคำกับผู้พิพากษาของเมืองตูรินเพื่อที่จะลบล้างมลทินของตัวเอง ในขณะที่ยอมรับว่าเคยเล่นพนันกีฬาประเภทอื่นจริง แต่เจ้าตัวก็ยืนยันว่าไม่เคยพนันฟุตบอลอิตาลีเลย
ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องดังกล่าว บุฟฟอนก็ยังติดทีมชาติอิตาลีไปลงชิงชัยในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ประเทศเยอรมนี ซึ่งเขาก็โชว์ฟอร์มซูเปอร์เซฟหลายครั้งหลายคราจนพาอัซซูรีทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ ก่อนจะคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 4 ไปครองด้วยการเฉือนชนะฝรั่งเศสในการดวลจุดโทษ
ตลอดทัวร์นาเมนต์ บุฟฟอนเสียประตูให้คู่แข่งแค่ 2 ลูกเท่านั้น โดยลูกหนึ่งมาจากการทำเข้าประตูตัวเองของคริสเตียน ซัคคาร์โด เพื่อนร่วมทีม และอีกลูกมาจากการยิงจุดโทษของซีเนดีน ซีดาน ในรอบชิงชนะเลิศ และนั่นทำให้ฟีฟ่าประกาศให้เขาเป็นผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมประจำฟุตบอลโลก 2006
หลังประสบความสำเร็จอย่างยิ่งยวดกับทีมอัซซูรีได้ไม่กี่วัน บุฟฟอนก็ต้องกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง เมื่อพบว่ายูเว่ต้องถูกปรับตกชั้นไปเล่นในเซเรียบี เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม จากความผิดฐานจ้างวานล้มบอล ซึ่งทำให้สตาร์หลายคนของทีมหนีเอาตัวรอดไปอยู่ทีมอื่นกันหมด ทว่านายทวารวัย 28 ปี ก็แสดงสปิริตด้วยการรับใช้ทีมต่อไป แม้ว่าจะต้องออกสตาร์ตฤดูกาลใหม่ด้วยการติดลบถึง 30 แต้ม ก่อนจะยื่นอุทธรณ์และลดลงมาเหลือ -17 และ -9 ในการตัดสินครั้งล่าสุด
ด้วยปฏิกิริยาอันยอดเยี่ยมในการรับบอล ออกมาตัดบอล และเซฟลูกยาก ๆ ของบุฟฟอนที่มีให้เห็นบ่อยครั้ง ทำให้เวลานี้ ยูเวนตุสมีโอกาสสูงมากที่จะได้เลื่อนชั้นกลับมาสู่ลีกสูงสุดทันทีหลังจบฤดูกาล
แม้จะพลาดรางวัลใหญ่อย่างนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของยุโรปหรือบาลงดอร์ แต่คงไม่มีใครปฏิเสธว่าจันลุยจี บุฟฟอน คือสุดยอดผู้รักษาประตูที่ยิ่งใหญ่ทั้งหัวใจและฝีมืออย่างแท้จริง
จอมหนึบ
ที่มา:http://www.youtube.com/watch?v=fjKp_FCvRvE
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น